บันทึกความทรงจำ ปีแห่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
เป็นรอยต่อระหว่าง ครึ่งปีสุดท้ายในรั้วมหาวิทยาลัย และจบออกมาสู่โลกกว้าง ในเวลาต่อมา
เป็นปีที่มีความสุข สนุก ได้เรียนรู้ และโตขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก
1) พี่ค่ายครั้งแรก
🗓️ มกราคม
เราได้มีโอกาสเป็นรุ่นพี่ค่าย Young Webmaster Camp รุ่น 12 เกิดมาไม่เคยเป็นรุ่นพี่ค่ายมาก่อนเลย สำหรับเราเป็นงานที่ท้าทายมากเลยนะ เพราะปกติเราจะเป็นคนซอฟต์ และมักจะดูเด็กเกินไปเสมอ จึงเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ได้ท้าทายตัวเองและออกจาก comfort zone
สิ่งที่ได้รับ: ฝึกความเป็นผู้นำ ฝึกการประสานงานต่างๆ
สิ่งที่ได้ให้: ได้ชื่อว่าเป็นพี่กลุ่มที่ใจดีที่สุด ฮ่าๆๆๆ ( ที่จริงไม่ดีหรอก ใจดีเกินไป 😛 )
สิ่งที่ไม่มีวันลืม: ”พี่อร พี่อร พี่อร พี่อร” ทุกๆคนในกลุ่มเรียกเราว่าพี่ ถึงแม้จะมีหลายคนที่จริงๆก็อยู่รุ่นเดียวกัน แต่ก็ยังยืนยันจะเรียกเราว่าพี่ตลอดไป ตลกดี ฮาาา
2) แข่งขันซอฟแวร์ครั้งแรก
🗓️ กุมภาพันธ์
เรียน ICT มาจะจบสี่ปีแล้ว
เอาจริงๆเรายังไม่เคยแข่งขันอะไรที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรือซอฟแวร์เลยยยย เป็นครั้งแรกที่ได้นำโปรเจคไปแข่งตามเวทีระดับนักศึกษา งานแรกคือ NSC (National Software Contest) เชื่อไหมว่าแข่งด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ อยากได้คะแนนพิเศษ เพราะที่คณะจะมีคะแนนพิเศษให้คนที่เข้ารอบ เหตุผลเด็กสุดๆไปเลยเนอะ?
แต่ใครจะเชื่อว่าการลงแข่งด้วยเหตุผลเด็กๆ จะเปลี่ยนชีวิตเราได้ ความจริงเราเพิ่งจะมารู้จักการทำ Proposal กับการฝึกพรีเซนต์ก็ช่วงนี้แหละ …โดยไม่คาดคิดเลย ว่าในอีกไม่กี่เดือนต่อมา ชีวิตของเราจะมาเอี่ยวกับงานพรีเซนต์และงานแข่งมากกว่าที่ตัวเองเคยคิดไว้
สิ่งที่ได้รับ: ความเข้าใจในรูปแบบการแข่งขัน ประสบการณ์ และเงินทุนสนับสนุน
สิ่งที่ได้ให้: เป็นกำลังส่วนหนึ่งให้กับคณะ ICT มหิดล
สิ่งที่ไม่มีวันลืม: ความตั้งใจของทุกคนในทีม และช่วงเวลาที่เพื่อนๆที่เข้ามาทดลองเล่นโปรแกรมด้วยความสนอกสนใจ
3) ผู้นำเต้นแอโรบิกครั้งแรก
🗓️ เมษายน
ขอบคุณลานแอโรบิกมหาวิทยาลัยมหิดลที่เดบิวท์เราเข้าสู่วงการ และทำให้เราชอบเต้นแอโรบิกมากกกกกก ช่วงหนึ่งเดือนสุดท้ายก่อนที่กำลังจะเรียนจบ เราได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่เราอยากลองมาตลอด แต่ก็ไม่กล้ามาโดยตลอด นั่นก็คือการ ขึ้นนำเต้นแอโรบิกบนเวที!
ได้รู้ว่าการต้องสอนนี่มันเป็นยังไง ยากกว่ามากขนาดไหน ไหนจะต้องดีไซน์บล็อกให้สนุก คิดขั้นตอนการสอนให้เข้าใจง่าย ฝึกฟังเพลง ฝึกการออกคำสั่ง เราไม่เคยเป็นผู้นำมาก่อน ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าเราจะกล้า ยืนอยู่บนเวที เต้นและออกคำสั่งต่อหน้าผู้คนมากมาย ต้องขอบคุณทุกคนที่ลานจริงๆค่ะ ที่ให้โอกาส
สิ่งที่ได้รับ: ความภาคภูมิใจในตัวเอง โดยเฉพาะในเรื่องความกล้าที่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน
สิ่งที่ได้ให้: มีรุ่นน้องบอกมาว่า เขาเองก็เคยคิดแต่ไม่กล้า พอได้เห็นเราเลยเกิดความกล้าขึ้นเวทีบ้าง นั่นแปลว่าเราได้ส่งต่อความกล้าหาญให้กับรุ่นน้องโดยที่เราไม่รู้ตัว
สิ่งที่ไม่มีวันลืม: ช่วงเวลาที่ตัวเองพลาดกลางเวที และกำลังใจต่างๆที่ได้รับ
4) ชิวไปไหน? ไปบู๊เช้าบู๊เย็น!
🗓️ มกราคม - เมษายน เช่นเดียวกันกับการขึ้นนำเต้นแอโรบิก ช่วงนี้เป็นช่วงที่ใกล้จะเรียนจบแล้ว วิชาเรียนต่างๆเริ่มน้อยลง ภาระต่างๆ โปรเจคต่างๆเริ่มเสร็จสิ้น ในช่วงนี้เราลั้นลากับการออกกำลังกายมากกกกก เรียกได้ว่าออกเช้า-เย็นทุกวันแบบชิวๆ ไม่ต้องรีบไปไหน ไม่ต้องห่วงเรื่องงาน
มีตั้งแต่ไปลองโยคะที่โรงเรียนโยคะ Salaya Mall กับคุณแม่ (ที่จริงเป็นคุณน้าที่ลานแอโรบิก) เล่นคลาสแนว Bootcamp เล่นเกมจานบินกับพี่ๆน้องๆ เล่น Body-weight training และ Freeweight training นั่งรถไปเล่นฟิตเนสที่เซ็นทรัล ศาลายา บลาๆ ให้เวลากับการออกกำลังกายไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงทุกวัน บางวันสูงถึง 5 ชั่วโมง ฮ่าๆๆ นี่มันชีวิตคนเกษียญวัย Active ชัดๆ
สิ่งที่ไม่มีวันลืม
เป็นช่วงเวลาที่โคตรชิวที่สุด สนุกที่สุดในชีวิต ได้สนุกทั้งกับตัวเอง และกับคนอื่นๆ ไม่มีวันลืมความสุขช่วงนี้แน่นอน (สะสมไว้ก่อน เดี๋ยวกลับกรุงเทพ เริ่มทำงาน คงไม่ค่อยได้เล่นแล้ว YY )
5) หนึ่งเดือนในโครงการ Junior MBA Chula ( JUMC )
🗓️ มิถุนายน โครงการนี้ทำเราลุ้นได้ทุกวัน ติดก็ไม่ง่าย เข้ามาแล้วก็ไม่ง่าย ได้อะไรใหม่ๆทุกวัน สนุกมาจริงๆ เล่าได้ยาวเลย เอาเป็นว่า เราเคยเขียน เล่าถึง JUMC ในเชิง Q&A ตอบคำถามที่เราเจอบ่อยๆ ไปแล้ว ลองไปอ่านดูได้นะ ^^
สิ่งที่ได้รับ: รู้จักกับคนเจ๋งๆมากมายในเวลาอันสั้น ได้รู้ว่าตัวเองอ่อนหัดมากแค่ไหน และได้แรงบันดาลใจที่จะเติบโตขึ้น
สิ่งที่ได้ให้: ได้เขียนสรุปความรู้ที่ส่งต่อได้กับทุกคน อย่างเช่นสรุปจากคลาสอสังหาริมทรัพย์ที่เราเคยเขียนในเฟส มีคนแชร์เยอะเลย
สิ่งที่ไม่มีวันลืม: ตาที่ลุกวาว ไฟที่ลุกโชน คือความรู้สึกของตัวเองในช่วงนั้น จะจดจำนำมาใช้กับชีวิตการทำงาน
6) ทำงานประจำครั้งแรกในชีวิต
🗓️ สิงหาคม - ตุลาคม ถึงแม้จะทำได้ไม่นาน แต่ตลอดช่วงสามเดือนก็เรียกได้ว่าเรามีความสุขไม่น้อยเลย ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่เราได้มีส่วนร่วมในโปรเจคถึงสามโปรเจค เรื่องราวเกี่ยวกับงานประจำ ตั้งแต่ทำไมเราถึงเลือกงานนี้ เป็นยังไงบ้าง และทำไมถึงออก จะนำเสนอในบล็อกเร็วๆนี้นะคะ
สิ่งที่ได้รับ: ข้าวปลาอาหารอย่างดี ได้รับเลี้ยงประจำ (เรื่องกินหนูไม่เคยลืม ^^) เพื่อนร่วมงานดีๆที่ทำให้เราแฮปปี้ได้ ทุกวันนี้ก็ยังไม่ลืมกัน ได้มองเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองชัดเจนขึ้น
สิ่งที่ได้ให้: บทบาททั้งในฐานะ researcher, content editor, social media marketer รวมถึง web developer
สิ่งที่ไม่มีวันลืม: ช่วงเวลาที่ไปเล่นฟิตเนสกับเพื่อนร่วมงาน ความประทับใจที่มีต่อแต่ละคนที่นี่ และบทเรียนบางเรื่องสำหรับตนเอง
7) กลายเป็นเจ้าแม่งานสัมมนาเฉย
ปีนี้เรามีโอกาสได้ไปงานสัมมนาบ่อยมาก ปกติเราชอบไปงานที่ฟรีหรือราคาไม่แพงอยู่แล้ว แต่ปีนี้ได้มีโอกาสไปหลายๆ งานที่มีราคาแพงด้วย ทั้งที่ทำงานส่งไป และมีสปอนเซอร์ใจดีช่วยสนับสนุนส่งไป แล้วกลับมาช่วยงาน 55
งานสัมมนาที่ได้ไปในปีนี้ ได้แก่ UX Talk 2, Digital Matters by ThumpUps, Digital Transformation by TIME, ชีวิตติดวัด, STARTUP เงินร้อย สู่เถ้าแก่น้อยเงินล้าน, Government Big Data Conference, UX/UI และ Neo4j ที่ Kaidee, โฮสเทลที่รัก
นอกจากนี้ก็มีกิจกรรม Workshop เช่น Infographic Workshop, พิสูจน์อักษร โดย afterword, กิจกรรมสำนักพิมพ์ Salmon Book โดย TCDC เป็นต้น เดี๋ยวนี้ใครๆก็เริ่มเห็นหน้าเราที่งานสัมมนาจนชิน 😛
สิ่งที่ได้รับ: เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น ความเข้าใจในรูปแบบงานสัมมนา และสามารถวิเคราะห์ได้แล้วว่างานไหนจะเป็นอย่างไร
สิ่งที่ได้ให้: เขียนแชร์ความรู้ ที่ทำไปเรียบร้อยแล้วก็มี
- ทำ UX ในองค์กรใหญ่ ต้องรู้อะไรบ้าง
- เคล็ดลับ UX Design เพื่อการวัดผล
- 8 บทสรุปจำติดหนึบ จากงาน “ชีวิต-ติด-วัด” (Startup Metrics)
สิ่งที่ไม่มีวันลืม: เปลี่ยนคนรู้จักของคนรู้จักให้มาเป็นคนรู้จักได้ (งงมะ 55 ) ตอนนั้นเขียนเล่าเรื่องราวเอาไว้ใน storylog ค่ะ 🙂
8) มีโอกาสเขียนมากขึ้นกว่าเดิม
นอกจากจะได้มีโอกาสได้รับเชิญเขียนใน Designil เวลาไปงานสัมมนาต่างๆ (ดูที่เราเขียนได้ในหัวข้อที่แล้ว) ก็ยังมีงานเขียนเสริมอื่นๆเข้ามาด้วย ทั้งช่วยเขียนเพื่อแชร์ความรู้ความคิด อย่างสรุป TED ให้อ่านในสามนาที ของ lightmeup.me รวมถึงช่วยทั้งเขียนเนื้อหาและทั้งทำเว็บให้อพาร์ทเมนต์ goldenhouse
เป็นครั้งแรกที่งานอดิเรกเริ่มค่อยๆกลายมาเป็นงานเสริม ถ้าสนใจให้อรวีเขียน ก็ติดต่อได้นะคะ (ขายของแป๊บ ฮ่าๆ)
นอกจากนี้เราเองก็ยังเป็นคนทำ Content ให้กับ Shippop สตาร์ทอัพน้องใหม่ และได้มีส่วนช่วยเหลือในงานอื่นๆนอกจากคอนเทนต์ด้วย
9) ได้รางวัลระดับประเทศ!
🗓️ สิงหาคม
พวกเราทีม Drum Stage ลงแข่งงาน Thailand ICT Awards 2015 พวกเราได้ออกบูธที่สยามพารากอน และคราวนี้พวกเราได้รางวัลที่สอง ในหมวดนักศึกษามหาวิทยาลัยมาครอง เป็นรางวัลที่ภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตนักศึกษา
10) งานรับปริญญามันเป็นแบบนี้นี่เอง
🗓️ สิงหาคม วันซ้อมรับวันแรก เป็นเหมือนการอำลาคณะ ICT วันซ้อมรับวันที่สองเราได้ไปร่ำลาชมรมยูโดและลานแอโรบิกอย่างเป็นทางการ วันซ้อมรับวันที่สามเป็นมหกรรมถ่ายรูป ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะมีคนมาหาเรามากมายขนาดนี้ จนกระทั่งวันรับจริงที่เราดันลืมถุงน่อง ก็ยังได้รับความช่วยเหลือ งานรับปริญญา ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ใบปริญญาเลย แต่มันคืองานที่ช่วยย้ำว่ามีคนอยู่เคียงข้างเรามากแค่ไหน
สิ่งที่ได้รับ: ความซึ้งใจความประทับใจ ทั้งกับเพื่อนๆและครอบครัว แค่มาก็ซึ้งแล้ว บางคนยังให้อะไรกับเรามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือความช่วยเหลือ น้องจ๋าที่ช่วยแต่งหน้าทำผม ป๊าม้าที่ช่วยรับส่ง พี่ต้นที่มาช่วยถ่ายรูป รวมถึงคนอื่นๆมากมายเหลือเกินค่ะ
สิ่งที่ไม่มีวันลืม: จะจดจำไว้ว่ากว่าแต่ละคนจะมาวันซ้อมรับที่เป็นวันเสาร์ได้นั้น ลำบากกันมากขนาดไหน บางคนบอกว่าใช้เวลาเดินทางถึงสี่ชั่วโมง! การมาหาเราทำให้พวกเขาต้องสละอะไรกันมากมายจริงๆ เรื่องนี้เราจะไม่มีวันลืมเด็ดขาด
งานถ่ายรูปเล่นมาเยอะแยะเลย 555 รูปภาพโดยพี่ untinosz ค่ะ
11) เรียนและสอบเป็น Certified Trainer!
🗓️ กันยายน - ธันวาคม อรวีจะเป็นเทรนเนอร์หรอ! ใครๆก็ฟังแล้วตกกะใจ 555 เวลาที่อรวีบอกว่าวันเสาร์ไม่ว่างนะ มีเรียนคอร์ส Personal Trainer
ความจริงจุดเริ่มต้นมันเริ่มมาจากความอยากรู้อยากเรียนเท่านั้นเอง อยากรู้ อยากเข้าใจ อย่างที่ทราบว่าเราชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว การที่เราสามารถต่อยอดความสนใจในระดับถัดไปได้ มันก็เป็นเรื่องที่ดีนะว่าไหม
สิ่งที่ได้รับ: พื้นฐานความรู้และความเข้าใจที่มากขึ้น เพื่อนำไปศึกษาต่อยอดเพิ่มเติมเองได้
สิ่งที่ได้ให้: ถ่ายทอดความรู้เรื่องฟิตเนสให้คนรอบข้างบ้างแล้ว ถึงแม้จะยังไม่ได้ทำอาชีพด้านนี้อย่างเป็นทางการ
สิ่งที่ไม่มีวันลืม: ความผิดพลาดตั้งแต่ก่อนที่จะมาเรียน (เขียนไว้ใน Storylog แต่หายไปแล้วแง) พบว่ากลุ่มเพื่อนๆที่ร่วมเรียนด้วยกันมา ส่วนใหญ่ก็เป็นเหมือนเรานี่แหละ ไม่เคยเรียนมาก่อนตรงๆ ทุกคนเลยกระตือรือร้นมากที่จะถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กัน 🙂
จำหุ่นสาธิตคนนี้ได้ไหม
12) ลาออกจากงานครั้งแรกในชีวิต
🗓️ ตุลาคม
เราลาออกทั้งๆที่ยังไม่ได้มีงานใหม่รองรับ ตั้งใจจะเล่าเพิ่มเติมในอนาคต ระหว่างนี้อ่านที่เราเคยเขียนก่อนได้ที่ storylog (ซึ่งหายไปแล้ว แง)
13) Pitch สตาร์ทอัพ บนเวทีต่อหน้าคนนับร้อย
เครดิตภาพจากรายการวัฒนธรรมชุบแป้งทอด
🗓️ ตุลาคม ขอเล่าเพิ่มเติมจากข้อแปด บอกตามตรงว่า Shippop เปลี่ยนชีวิตเราไปมากจริงๆ ปกติเราถนัดแค่การคิดๆเขียนๆ เป็นครั้งแรกที่เราได้รับบทบาทด้านการพูดด้วย และมันไม่ใช่แค่การพูดธรรมดา แต่เป็นการพูดเพื่อแข่งขันในรายการ ทั้ง AIS Startup 2015 และ Start It Up Conference
การพูดขายของที่บูธและนัดพูดคุยกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ รวมถึงการ pitch บนเวทีท่ามกลางคนมากมายด้วย
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ได้หมายถึงจุดที่ได้รางวัลหรือมีชื่อเสียงอะไรนะ แต่หมายถึงจุดที่ตัวเราเปลี่ยนไป พัฒนาขึ้นกว่าแต่ก่อน กล้าขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมาย
สิ่งที่ได้รับ: ประสบการณ์อันเลอค่า และความภาคภูมิใจในตัวเอง (ถึงแม้จะยังทำได้ไม่ดีมากก็ตาม ฮ่าๆ)
สิ่งที่ได้ให้: ได้ช่วยเหลือเพื่อน ได้ช่วยเหลือทีม
สิ่งที่ไม่มีวันลืม: ทุกๆโมเมนต์ของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน บนเวทีหรือไม่ เราจำได้ว่าครั้งไหนดี ครั้งไหนไม่ดี เราจำได้ และจะจำไว้พัฒนาต่อไป
14) ได้ไอโฟนฟรีมาเฉย!?
🗓️ พฤศจิกายน ปรากฏว่าเรื่องที่คนจำเราได้มากที่สุดประจำปีนี้ คือเหตุการณ์ที่อีอรวีคนนี้คว้ารางวัลแจก iPhone6s ของ GrabBike มาได้!! พระเจ้าาาา อะไรมันจะดวงดีขนาดนั้น ตอนเขียนโพสต์นี้ ยอดไลค์ (หรือยอดหมั่นไส้ ดี? 55) พุ่งทะลุมากกว่าทุกเหตุการณ์ในชีวิตเลยยยย
ขอยืนยันตรงนี้อีกครั้งว่าเกิดมาไม่เคยมีดวงขนาดนี้มาก่อน เรื่องนี้ไม่มีวันลืมอย่างแน่นอนบอกเลย [] โพสต์ของดิฉัน ณ ตอนที่เล่นค่ะ ไม่รู้ว่าได้เพราะดวงหรือได้เพราะความเพ้อ ฮ่าๆๆ
15) ได้เป็นตัวแทนประเทศไปแข่งถึงศรีลังกา!
🗓️ พฤศจิกายน จากงาน TICTA ในข้อ 9 ต่อมาพวกเราได้รับเกียรติอย่างสูงสุดในการเป็นเหมือนตัวแทนประเทศ ไปแข่งกับประเทศต่างๆที่งาน Asia-Pacific ICT Alliance Awards (APICTA) ประเทศศรีลังกา อะไรมันจะไฮโซขนาดนั้นนนน เป็นทั้งการทำงานและการเที่ยวไปในตัว ถึงแม้จะไม่ได้รางวัลกลับมาแต่ก็ภาคภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสนี้
สิ่งที่ไม่มีวันลืม: วันที่เดินทางตรงกับวันเกิดของเราพอดี มื้อเย็นของวันนั้นเป็นมื้อที่คึกคักที่สุดพอดีด้วย ได้เจอไอดอลมากมาย ถือเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตวันนึงเลย
สำหรับเราปีนี้มันเปลี่ยนแปลงมหาศาลมากมายจริงๆ เป็นปีที่มองย้อนกลับมาแล้วรู้สึกขอบคุณทุกๆ คนที่ผ่านเข้ามา และภูมิใจในตัวเองมาก
แล้วปีของคุณนักอ่านเป็นยังไงบ้างคะ มาแชร์กันได้นะ 🙂